ถ้าเราจะพูดถึง วิญญาณ สิ่งที่มองไม่เห็นหรือที่เราเรียกกันว่าผีนั้น มีใครบ้างที่ไม่กลัว เพราะหลายคนที่เคยเห็นผีมาแล้วนั้นเขาก็จะมีความกลัวกันทั้งนั้น

วิญญาณ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับผมและเพื่อนๆ ที่นัดกันไปตกปลาคลองแถวบ้าน โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นมาในระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา คลองที่ว่าอยู่แถวบ้านเพื่อนของผมชื่อว่า “แมน” เวลาผมกับเพื่อนคนอื่นๆ ขับรถไปบ้านของแมนไม่ว่าช่วงเวลาจะดึกดื่นเพียงใด คลองๆ นั้นเป็นคลองที่จำเป็นจะต้องสัญจรผ่านอยู่ประจำทุกวัน โดยคลองดังกล่าวมีมานานมากแล้ว มันคือคลองอู่ตะเภา ในอำเภอหาดใหญ่ แต่ผมขอไม่บอกว่าเป็นจุดใด
มีวันหนึ่ง เราก็นัดกันไปตกปลาเช่นเคย แต่วันนั้นเป็นคืนวันพระจันทร์เต็มดวง ตรงกันกับวันพระ ในคราวแรกผมกะจะชวนกันแค่กับแมน 2 คน แต่ด้วยเกรงว่าบรรยากาศมันจะหวิวๆ จนเกินไป จึงจะชวนเพื่อนอีกคนไปด้วย
ทั้งนี้เพราะบริเวณที่พวกผมจะไปตกปลาไม่ได้เป็นส่วนคลองที่อยู่ติดกับริมถนน แต่จะอยู่ลึกเข้าไปด้านในติดป่านิดๆ และก่อนที่จะถึงเวลาตกปลาจริง ผมและแมน เราได้ไปเซอร์เวย์ดูที่ๆ จะตกกัน ก็โอเคดี แต่ส่วนตัวผมเองคิดในใจว่า
…เราจะมาตกปลากันที่นี่จริงเหรอ เพราะสังเกตไม่เห็นว่าจะมีร่องรอยของใครเข้ามาตกปลาบริเวณนี้เลย บรรยากาศค่อนข้างเงียบ…

แต่ไอแมนเพื่อนผม เดิมทีมันเป็นคนที่ไม่กลัวผี เพราะแมนนับถือคริสต์ ส่วนเอ็มเพื่อนของผมอีกคนที่แมนชวนไปด้วยก็พอๆ กัน เขาไม่มีศาสนา ไม่เชื่อในอะไรทั้งนั้น เอ็มที่แมนชวนก็แน่นอนตกลงไปตกปลาด้วย
เพราะชอบรูปที่ผมกับแมนถ่ายเซอร์เวย์ไปให้ดู ส่วนตัวผมรู้สึกไม่ดีกับสถานที่สักเท่าไร จากนั้นผมก็บอกแมนว่ารู้สึกไม่ดี แต่เราก็ซื้อของไปนั่งปิ้งย่างรอเอ็มตามมา เพราะทั้งคู่ยังยืนยันที่จะไป ทั้งนี้พื้นที่ตรงนั้นค่อนข้างทึบ เป็นป่าไผ่
ต่อมานั่งกันไปในช่วงเวลา 4 ทุ่ม ยังไม่ดึกมาก พระจันทร์เต็มดวง เรานั่งตกเบ็ดกันไปเรื่อยๆ ได้ปลาบ้าง ไม่ได้ปลาบ้าง แต่บรรยากาศรอบๆ เงียบชนิดที่ว่าแม้แต่เสียงจักจั๊นก็ยังไม่มี พื้นที่ตรงนั้นเลยไปอีกนิดหน่อยก็จะเข้าสู่อีกตำบลหนึ่งคือคูเตา เท่าที่ผมทราบตามหลักแล้ววันพระเขาไม่ให้ตกปลา ผมจึงบอกกับเพื่อนว่า
…กลับไม่ดึกมากนะ เพราะเราไม่กล้าอยู่ถึงตี 1 ตี 2…
หลังจากผมบอกเพื่อน แต่เพื่อนกลับตอบว่า
…ก็อยู่ถึงเช้าไปเลย…
จากนั้นพวกเราจึงเริ่มเถียงกัน เพราะผมเริ่มไปทำให้สองคนนั้นเสียบรรยากาศ ในระหว่างตกปลากันต่อมา ผมเริ่มหันซ้ายขวา เอ็มจึงพูดกับผมว่า

“พี่เฟิร์ส พี่อย่าทำให้เสียบรรยากาศ ถ้าหากกลัวก็ไม่ต้องมาแต่แรกเลย” ผมก็เงียบไม่ได้พูดอะไร ก็นั่งๆ นอนๆ อยู่บนเสื่อที่เอามาต่อไป เพื่อนก็ตกปลากันไปในคลองที่ค่อนข้างกว้าง ไม่ใช่เพียงคลองเล็กๆ
โดยเฉพาะคลองอู่ตะเภาแห่งนี้ที่อยู่มานานและมีเรื่องเล่ามากมาย ระหว่างตกปลามีเสียงต้นไม้สั่นค่อนข้างแรงมากๆ เป็นต้นที่อยู่ตรงอีกฝั่งคอลงลักษณะเอียงลงมาใกล้ลำคลอง 2 – 3 ต้น ผมที่ได้ยินเสียง แต่ยังไม่ได้หันไปมองในทีแรก แต่เพื่อนผมทั้งสองคนหันไปมอง เพราะผมค่อนข้างเมา แต่ก็ยังไม่ได้หลับ ยังคงลืมตา
“เสียงอะไรวะ ไอแมน เดินไปดูมั้ย” เอ็มถามแมน จากนั้นทั้งสองก็เดินไปดูกันด้วยความรู้สึกที่ไม่กลัวผี ทั้งที่พอจะรู้ว่าของแบบนี้มันมีจริง ทั้งสองเดินไปดูเรื่อยๆ สรุปไม่มีอะไร พวกนั้นเดินกลับมาบ่นๆ ปนหัวเราะกัน
ตอนนั้นแม่ผมก็โทรมา ผมที่กำลังคุยกับแม่ อยู่ๆ ต้นไม้ก็มีอาการเดิมสั่นแรงลงไปในน้ำอีก เสียงดัง …ซู่ ซู่ ซู่!!!… คราวนี้ทุกคนไม่ขำ ผมเองตัดสินใจเดินไปดูด้วย แต่ก็ไม่มีอะไรเช่นเดิม แต่ผมขวัญเสีย ผมพูดว่า

“กูบอกมึงแล้วใช่มั้ยเอ็ม ไม่กลัวนักพวกมึงอะ เป็นไง”
“เฮยอะไรอะพี่ ไม่ใช่รึเปล่า” เอ็มตอบผม ตามมาด้วยเสียงสบถตะโกนของแมน
“ใครแกล้งวะ!!! มึงออกมาดิ ใครแกล้งอะ?!” เสียงแมนลั่นไปทั่วบริเวณ ผมจึงเดินออกมาจากจุดที่เราเข้าไปดูใกล้ๆ และพูดว่า
“ไป กลับได้ละ!” ผมรู้สึกว่าทุกคนเริ่มอยู่ไม่ติดจากที่คุยกัน ตกปลา และรอบแรกเพื่อนผมยังเดินหัวเราะกลับกันมา แต่คราวนี้รอบสอง พวกเราเงียบ ส่วนของถนนด้านหน้าก่อนจะเข้ามาถึงจุดนี้ก็ไม่มีรถสัญจรผ่านสักคัน เพราะเส้นทางนี้ไม่ใช่เส้นทางหลัก แต่เป็นเส้นลัด
เพื่อนผมก็ยังอยู่ต่อ กระทั่งตี 2 ปลายังไม่ได้สักตัว ผมถามว่า
“ตกหาอะไร ไม่ได้ปลาสักตัว กลับตั้งแต่ทีแรกก็จบ” แต่เพื่อนผมก็ยังไม่ฟัง สรุปผมก็ตัดสินใจลงไปนอนต่อบนเสื่อ เพราะคิดว่าพวกมันคงจะกลับกันตอนเช้าแล้วละ ผมเองหลับไปแล้วก็ตื่นมาได้ยินเสียง
“เฮยอะไรวะ!?” เป็นเสียงของเอ็ม โดยเอ็มมาเล่าให้ผมฟังทีหลังว่ามันเห็นร่างคล้ายคนนั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้ที่อยู่ในลักษณะโค้งลงไปในน้ำและสั่นๆ ก่อนหน้านี้ เอ็มบอกว่าตกใจมาก เพราะเป็นผู้หญิง ผมไม่ยาวมาก นั่งแกว่งเท้าไปมา ด้วยความที่ตอนนั้นพกไฟฉาย
สปอร์ตไลท์ไปเพียงอันเดียวก็ส่องไปทางนั้น จึงเห็นว่าเป็นผู้หญิงใส่เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้นปกติ เธอนั่งแกว่งเท้าไปมา หากมองให้ดีอาจจะคิดว่าเป็นคน
ช่วงเวลาในเหตุการณ์ตอนนั้นผมที่ได้ยินเอ็มพูดว่า “เฮยอะไรวะ!?” จบ ก็มีเสียงผู้หญิงหัวเราะตามมาเป็นเสียงหัวเราะที่ดังลั่น กังวาน เป็นเสียงตามน้ำมา เพราะโค้งไม้นั้นอยู่ตรงข้ามเยื้องกันกับพวกเรา แต่คลองก็ค่อนข้างกว้าง

จากนั้นมีเสียงคันเบ็ดตกลงพื้น ซึ่งแมนเป็นคนทำตก และเดินไปหยิบกุญแจรถ เก็บของด้วยอาการช็อกเกร็งสุดๆ ส่วนผมเองก็ตกใจกับเสียงหัวเราะนั้น แต่เอ็มก็ยังถือไฟฉายส่องค้างไปยังส่วนที่เห็นผู้หญิงคนนั้นอยู่
ข้อมูลต่อจากนี้คือส่วนที่เอ็มเล่าให้ผมฟังในตอนเช้าว่า อยู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็หัวเราะและกระโดดลงน้ำในลักษณะที่ยังยืนและเดินลุยน้ำมา เพราะที่กระโดดลงไปยังตืนอยู่ แต่เธอคนนั้นเดินมาแบบไวๆ ลุยน้ำ
ซึ่งเป็นไปไม่ได้ว่าคนจะเดินฝ่าน้ำมาได้ไวขนาดนั้น เธอเดินก้มหน้า หัวเราะกางมือฝ่าน้ำมา ทุกคนร่วมถึงผมรู้สึกว่าที่เจออยู่ในเวลานั้นไม่ใช่คนแน่ๆ ผมได้ยินเสียงแมนสะดุดเข้ากับอะไรสักอย่างตรงส่วนที่พวกเรานั่งต้มมาม่า แล้วเอ็มกับแมนก็เริ่มวิ่งไปที่รถ ผมที่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าสองคนนั้นเห็นอะไร
แต่วิ่งออกไป ผมก็วิ่งตามไป พวกเราไปตั้งหลักกันที่บ้านของแมน ไม่มีใครยอมนอน พวกเรารอกันถึงเช้ากะว่าจะไปกินน้ำชาด้วยกัน แต่กลายเป็นว่าพวกเรานั่งเล่าถึงเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น โดยที่พึ่งทราบว่าแต่ละคนพบเจอ ได้ยิน เหมือนกัน ส่วนเอ็มสรุปเอาว่าอาจจะเป็นเพราะพวกเราไปปากดีกันแถวนั้น เอ็มทิ้งท้ายไว้แค่ว่า
“…เสียงหัวเราะนั้นยังดังอยู่ในหูของผมอยู่เลย…”
หรือสามารถเข้ารับชมวีดีโอเพิ่มเติมได้ ที่นี่
หรือสามารถชชมเรื่องราวความหลอนอื่นๆได้ ที่นี่
#ผีพราย #วิญญาณลี้ลับ #เสียงหลอน
ขอขอบคุณภาพจาก
- www.bloggang.com
- www.thehouse.online
- static.thairath.co.th
- renlub.com
- t1.blockdit.com
- c3.primacdn.cz