คนแก่เขาสอนไว้ว่าถ้าเราไปพักที่ใดจะต้องให้ ความเคารพเจ้าที่ เพราะแต่ละที่มีอะไรอีกมากมายที่เขามองไม่เห็นอาจจะเป็นดวงวิญญาณที่ดูแลสถานที่นั้นๆ

ความเคารพเจ้าที่ เรื่องนี้เป็นเรื่องคนขับรถของน้าผม ตอนที่ผมไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ ในตอนนั้นผมจะต้องไปตั้งบริษัทกันที่อุดรฯ ตอนแรกผมจะได้นั่งเครื่องกันไปกับน้า แต่ด้วยความที่ผมรู้จักกับพี่เอคนขับรถและสนิทกัน
ผมจึงนั่งไปกับเขาเพราะเกรงใจน้าด้วยจึงอาสาจะนั่งรถไปกับพี่เอ พี่เอก็โอเค น้าก็นั่งเครื่องบินไปกันก่อน แล้วผมกับพี่เอจึงขับรถตามไป
ในตอนที่ขับรถไป รถคันที่เอาไปก็เป็นรถตู้ พวกเราขนของเอกสารคอมพิวเตอร์กันไปสารพัดแล้วจึงเดินทางไปทางปราจีนบุรี พอเดินทางพ้นปราจีนฯ ไปได้สักพักพี่เอก็เริ่มไม่ไหวด้วยออกเดินทางมากลางคืนจึงแวะนอนพักหารีสอร์ทกัน
แต่ไม่ว่าจะไปกี่ที่ก็จะเต็มซะส่วนใหญ่ จะมีทั้งสิบล้อต่างๆ ด้วยต่างจังหวัดมีคนแวะนอนพักกันเยอะ จนพวกเราไปแวะรีสอร์ทๆ หนึ่ง โดยพี่เอบอกว่า

“คราวนี้นะ ถ้ามันจะเป็นยังไงๆ นะ ถ้ามันไม่มี กูยอมขับรถไปถึงอุดรฯ แม่งเลย ไม่ต้องนอนมันเลยไอเฟิร์ส คอยดู!!”
สรุปพอไปถึงที่เคาเตอร์ ตอนแรกพนักงานทำท่าทางคล้ายจะบอกว่าไม่มี ส่วนพี่เอก็ทำหน้าเซ็งและพูดตรงหน้าเคาเตอร์เลยว่า “กูว่าแล้วไง ไปเฟิร์ส ไปอุดรฯ” แต่กลายเป็นว่าพนักงานกลับบอกว่า
“เดี๋ยวพี่มีห้องนึง พี่ไปดูห้องก่อนมั้ยแล้วค่อยพักถ้าพี่ชอบ” ผมก็สังเกตว่าปกติคนที่จะขายห้องไม่จำเป็นต้องถามว่าไปดูห้องก่อนมั้ย แต่พนักงานกลับพูดแบบมีนัยบางอย่าง แต่พี่เอบอกว่า
“เอามาเถอะน้อง เดี๋ยวพี่ต้องไปอุดรฯ อีกตอนเช้า เอามาเลยกุญแจห้อง”
“เดี๋ยวๆ ผมพาไปดูห้องก่อน ผมพาไป” พนักงานก็นำไป ก่อนจะไปถึงห้องก็เป็นรีสอร์ทแถวยาว มีศาลไม้ขนาดใหญ่ดูเก่าคล้ายเป็นศาลตายาย พี่เอก็ขอไปถอยรถจอด พนักงานจึงถามว่า “ไม่ดูห้องก่อนเหรอครับ” พี่เอด้วยเป็นคนปากหมาจึงตอบว่า

“ไม่ต้องดูแล้ว ดูเหี้ยอะไร กูแม่งเหนื่อย นอนเถอะ จะผงจะผีโจรห่าเหวอะไรนอนได้หมดอะ กูไม่ไหวแล้ว กูง่วง!!” สรุปแกก็ตกลงเอาห้องนั้นจ่ายตังเด็กพนักงานไปก่อนที่จะเดินถึงห้องเสียอีก จากนั้นแกก็แบกกระเป๋าไป
พอเปิดเข้าไปดูห้องพี่เอก็ถึงกับเหวอ ผมก็คิดในใจว่าไอเหี้ย เป็นไงบอกแล้วว่าให้ดูก่อน เพราะขนาดพนักงานเองก็ยังพูดว่าดูห้องก่อนเปล่า
ตอนที่ดูห้องพี่เอก็ไม่เข้ามา แต่ให้ผมเข้ามาดูห้องคนเดียว ผมดูตรงกลอนประตูคล้ายมีร่องรอยถูกพังเข้ามา ด้วยนิสัยที่เรียนช่างมาผมก็จะสังเกตว่ามันมีรอยโดนซ้อมมาแล้วกี่ครั้ง เพราะประตูจะดูออก ซึ่งร่องรอยประตูบานนี้เละ ผมคิดว่ามีปัญหาแน่ๆ ห้องนี้ แต่พี่เอเขาก็จะนอนนี่บอกว่า

“เออน้อง ไม่เป็นไร” พอเข้ามาในห้องแอร์ก็ดีบ้างไม่ดีบ้าง ผมจึงบ่นพี่เอไปนิดหน่อยว่า
“พี่เอ ผมบอกแล้วใช่เปล่า”
“เออช่างแม่งเหอะไอเหี้ย ตอนนี้นอนก่อนเถอะ เดี๋ยวมึงนอนเตียงนี้นะ กูนอนเตียงนี้” เพราะในห้องมี 2 เตียง ก็แบ่งกันเพราะห้องเป็นเตียงคู่
ตอนแรกพี่เอนอนฝั่งขวา ผมนอนฝั่งซ้าย แต่พอผมอาบน้ำออกมาเสร็จ แกกลับบอกให้ผมสลับไปนอนริมฝั่งขวาแทนบอกว่า
“เฟิร์ส เดี๋ยวมึงนอนริมนี้นะ”
“เอ้าทำไมพี่”
“เออ มึงนอนริมนี้เถอะ กูขอนอนริมนี้นะ กูไม่อยากนอนริมหน้าต่าง”
“อ่อ โอเคพี่ กลัวอะดิ”
“กลัวเหี้ยอะไร” พี่เอก็สบถมาจากนั้นก็ไปคุยโทรศัพท์กับแฟน คล้ายซุบซิบอะไรบางอย่าง แล้วหันไปมองที่หน้าต่าง ตอนนั้นผมทำงานอยู่ กำลังจดเอกสาร
แต่ผมก็สังเกตอาการพี่เอที่คุยโทรศัทพ์สักพักพี่เอก็นุ่งผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไป แกอาบน้ำแปบเดียวมากแล้วก็ออกมา แล้วพี่เอก็ถามผมาคำนึงว่า

“มึงนอนได้ปะ เตียงนั้นนอนได้มั้ย”
“ผมก็นอนได้หมดแหละพี่ ทำไมอะ มีอะไรพี่” ตอนนั้นผมก็เลื่อนผ้าม่านดู เห็นแล้วว่ามันเป็นหน้าต่าง ส่วนก่อนหน้านั้นพี่เอสูบบุหรี่และปิดหน้าต่างเอาไว้
ผมจึงเปิดหน้าต่างก็ไปดูก็ไม่มีอะไร ด้านนอกเป็นทุ่งกว้างๆ กระทั่งจะเข้านอนด้วยปกติผมเดินทางกับแกบ่อย แกจะปิดไฟนอน แต่นี่แกไม่ปิด เปิดไฟนอนอยู่อย่างนั้น แล้วแกก็บอกว่า
“ที่นี่เปิดไฟนอนนะ เฟิร์สมึงกลัวผีไม่ใช่อ่อ”
“ก็กลัวพี่ แต่จังหวะนี้ผมเหนื่อยสัตว์เลย แต่ว่าเมื่อกี๊พี่พูดไม่ใช่เหรอว่าจะผงจะผีพี่นอนได้หมด มีอะไรรึเปล่าพี่เตียงนี้”
“มึงนอนเถอะ” พี่เอบอก ผมก็เลยนอน
จากนั้นตื่นมากลางดึกเห็นพี่เอลุกขึ้นมานั่งเหมือนจะเล่นโทรศัพท์แต่ก็ไม่ได้เล่น เหมือนกดโทรหาใครก็ไม่รู้ ผมจึงถามว่า “พี่เอ ทำไมนอนไม่หลับ”
“เออไม่รู้ทำไมนอนไม่หลับ” พี่เอตอบมาอย่างนั้น

กระทั่งเช้า พี่เอเล่าว่าเมื่อคืนตอนนอนอยู่ๆ ได้ยินเสียงคนเดินมาอยู่หน้าห้อง นึกว่าพนักงานก็เลยกดโทรศัพท์โทรไปถามพนักงานน้องเดินมาหาหน้าห้องพี่เปล่า แต่เขาก็บอกว่าเปล่าพี่ไม่ได้ไปเลย
พี่เอเลยเปิดประตูออกไปสูบบุหรี่ดูหน้าประตู แต่ก็ไม่มีอะไร แต่พอปิดประตูก็ได้ยินเสียงคนวิ่งผ่าน ก็เลยรู้สึกว่าเฮยอะไรวะใคร จึงเปิดประตูไปดูอีกเห็นคนวิ่งไปจริงๆ
แต่วิ่งหายเข้าไปในศาล!! ที่เห็นเป็นเด็กผู้ชายประมาณ 10 ขวบ แกขยี้ตาดูใหม่คิดว่าอาจจะเป็นเพราะง่วงนอน แต่จังหวะที่จะปิดประตูก็ได้ยินเสียงคนวิ่งมาอีก!! จังหวะนั้นแกขนลุก ตอนแรกที่ไม่แน่ใจว่าตามัวหรือไม่ พอได้ยินเสียงอีกรอบก็เริ่มขวัญเสีย
เพราะเสียงนั้นวิ่งตรงมาทางห้องที่พวกเราพัก ด้วยถนนข้างหน้าเป็นดินที่ถูกถมด้วยหินก็จะได้ยินเสียงชัด เสียงนั้นมาหยุดอยู่หน้าห้อง แกเลยเดินถอยหลังมากดโทรศัพท์โทรหาเมียทันที
แล้วแกยังเล่าอีกว่าตอนแกสูบบุหรี่ตรงที่หน้าต่าง ตอนแรกที่แกนอนที่นอนฝั่งของผม แล้วอยู่ๆ ตอนแรกที่เปิดแค่ม่านยังไม่เปิดหน้าต่าง แกเห็นหัวคนแค่ครึ่งเดียวมองเข้ามา
พอแกร้องเฮย หัวนั้นก็หายไปทันที เหมือนเห็นแค่ครั้งเดียวลักษณะโผล่หน้ามาครึ่งเดียวและหายไป แกจึงสูบบุหรี่อยู่ในห้องไม่ยอมเปิดหน้าต่าง ควันบุหรี่เต็มห้อง ผมก็พึ่งมาเข้าใจตอนที่แกเล่าให้ฟังทั้งหมดตอนเช้า

ในวันนั้นก่อนจะกลับแกก็ไปยืนยกมือไหว้ตรงศาล แล้วผมก็เห็นว่ามีตุ๊กตากุมารตรงศาลตัวใหญ่ความสูงเกือบเท่าหัวเข่า เป็นตุ๊กตากุมารทองที่เหมือนแกะสลักดูขลังมาก คล้ายถูกทาแป้งให้หน้าขาววอก ยืนเท้าสะเอวอยู่ที่ศาล
พี่เอจึงบอกกับผมว่าน่าจะเป็นเจ้าที่เจ้าทางที่เป็นกุมารนี้ที่พี่เอเห็น แต่ที่หลอนมากๆ พี่เอบอกว่าเป็นเสียงที่วิ่งลากทรายมา ด้วยน้ำหนักเสียงนั้นคล้ายเป็นผู้ใหญ่ เหมือนคนที่โตแล้ววิ่ง กอปรกับถนนเป็นหินจึงได้ยินเสียงชัด ส่วนผมจำได้แค่ว่าตอนนั้นก็พอเห็นท่าทางของพี่เอ แต่ผมยังสลึมสะลือจึงไม่ได้เจอแบบที่พี่เอเจอ แต่ผมแค่ฟังก็ยังรู้สึกหลอนไปด้วย
หรือสามารถเข้ารับชมวีดีโอเพิ่มเติมได้ที่นี่
หรือสามารถชมเรื่องราวความหลอนอื่นๆได้ที่นี่
#ห้องพักผีสิง #กุมาทอง #ศาลตาศาลยาย #ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ #วิญญาณเจ้าที่
ขอขอบคุณภาพจาก
- s3.theasianparent.com
- www.apthai.com
- f.ptcdn.info
- www.ruay9.com
- dreamgirls.in.th
- 1.bp.blogspot.com
- www.guitarthai.com